รถยนต์ มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?

รู้หรือไม่ว่า รถยนต์ แต่มีประเภท แตกต่างกันอย่างไร? การแบ่งประเภทของรถนั้น แบ่งตามขนาดของตัวเครื่อง ตัวรถ และรวมไปถึงอุปกรณ์ภายในของตัวรถ ซึ่งวันนี้ โต ออโต้คาร์ จะมาแนะนำว่าแต่ละประเภทเป็นอย่างไรบ้าง

รถยนต์แบ่งประเภทได้ตาม SEGMENT ดังนี้

A-SEGMENT

เริ่มต้นด้วยรถขนาดเล็กไปใหญ่ก่อนเลย รถยนต์ประเภท A-SEGMENT จะเป็นรถขนาดเล็ก มีความคล่องแคล่วในการขับขี่ เข้าซอยแคบๆได้สาย เหมาะสำหรับขับภายในเมือง ซึ่งรถประเภทนี้จะมีขนาดเครื่องยนต์ที่ 660 cc. ขึ้นไป แต่ไม่เกินขนาด 1,000 cc. *ถ้าในญี่ปุ่นจะเรียกรถพวกนี้ว่า “Kei Car”*

B-SEGMENT

มาต่อกันที่ รถยนต์ประเภท B-SEGMENT จะเป็น รถยนต์ ที่มีขนาดใหญ่กว่า A-SEGMENT เหมาะสำหรับวัยรุ่นและคนวัยทำงานที่ต้องการหารถใช้งาน หรือมีครอบครัวขนาดเล็ก ภายในจะมีพื้นที่จุสัมภาระไว้ข้างในได้พอสมควร รถประเภทนี้มีขนาดเครื่องยนต์ประมาณ 1,000 cc. ถึง 1,500 cc. ซึ่งจะแบ่งรุ่นย่อยอีก 2 ประเภท คือ

• รถยนต์ Eco car ถือว่าอยู่ในประเภทของ B-SEGMENT ส่วนใหญ่ขนาดตัวเครื่องยนต์ประมาณ 1,200 cc. เช่น Honda Brio หรือ Nissan Almera
• รถยนต์ ที่มีขนาดมากกว่า 1,200 cc. ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1,500 cc. รถประเภทนี้จะมีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่กว่า Eco car แต่ก็ยังเป็น B-Segment เหมือนกัน ส่วนใหญ่จะมีออปชั่นเสริมภายในตัวรถ เช่น HONDA CITY, HONDA JAZZ, TOYOTA VIOS, และ MAZDA2 เป็นต้น

C-SEGMENT

รถยนต์ประเภท C-Segment ขนาดตัวรถจะไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป มีการเสริมออปชั่นในตัวเครื่องยนต์ และช่วงล่าง มีการเพิ่มสมรรถนะให้ดีมากยิ่งขึ้น ขนาดเครื่องยนต์ของรถประเภทนี้จะอยู่ที่ 1,500 cc. ถึง 2,200 cc. และจะมีความยาวของตัวรถประมาณ 4.4 – 4.75 เมตร เช่น Honda Civic, Toyota Altis, และ Mazda3 เป็นต้น

D-SEGMENT

รถยนต์ประเภท D-Segment เป็นรถที่การตบแต่งภายใน เน้นความหรูหรา และออปชั่น มีการใช้วัสดุที่ดีมาก ขนาดเครื่องยนต์ของ D-Segment จะอยู่ที่ 2,400 cc ขึ้นไป ตัวรถจะใหญ่กว่ารถประเภท C-Segment เช่น Toyota Camry, Honda Accord, Nissan Teana เป็นต้น

Luxury Car

เป็น รถยนต์ ที่เน้นความหรูหรา ทั้งการตบแต่งภายนอกและในตัวรถ รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง ส่วนใหญ่ระดับผู้บริหารมักเลือกใช้ สำหรับรถประเภทนี้จะแบ่งออกมาอีก 3 ประเภท คือ

• Entry Level Luxury ตัวรถจะมีขนาดเท่ากับรถ Compact Car เช่น Mercedes-Benz C-Class หรือ BMW Series3 เป็นต้น
• MID-Size Luxury Car เป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์ขนาดการทั่วไป เช่น Mercedes-Benz E-Class, Lexus G8, หรือ BMW Series 5 เป็นต้น
• Full-Size Luxury Car เครื่องยนต์ของตัวรถยนต์ประเภท Full – Size Luxury Car ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 3,000 cc. ถึง 4,500 cc. มีขนาดตั้งแต่ V6 ไปจรถึง V12 เช่น Mercedes-Benz S-Class, BMW Series 7 เป็นต้น

รถอเนกประสงค์

ในปัจจุบัน ค่ายรถยนต์ชั้นนำ พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบาย ในการขับทางใกล้และไกล หรือ ขับลุยเส้นทางขรุขระ บรรทุกของ อีกทั้งบรรทุกคนจำนวนมาก จนกลายเป็นรถรุ่นย่อยประเภท SUB, PPV, MPV, และ CROSSOVER ซึ่งรถยนต์เหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่ารถเก๋งทั่วไป

• SUV (Sport Utility Vehicle) ส่วนใหญ่จะเป็นรถรูปแบบ 5-7 ที่นั่ง คือ รถที่มีความสมบุกสมบัน มีประโยชน์ใช้สอยมากกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่ยังคงความสปอร์ตและความสวยงามไว้ สามารถบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน เช่น HONDA CR-V, Nissan X-Trial เป็นต้น

• PPV (Pick-Up Passenger Vehicle) คือ รถอเนกประสงค์ ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ มีความนุ่มนวล นั่งสบาย มีการปรับเปลี่ยนช่วงล่างใหม่ ไม่ให้แข็งจนเกินไปเหมือนรถกระบะ โดยรถประเภท PPV จะถูกเรียกเฉพาะในไทย เท่านั้น ถูกออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง เช่น Toyota Fortuner เป็นการนำรถกระบะ Toyota Hilux Revo มาดัดแปลง, Mitsubishi Pajero Sport ดัดแปลงมาจาก Mitsubishi Triton หรือ Isuzu MU-X มีพื้นฐานมาจาก Isuzu D-Max

• Crossover (Crossover Utility Vehicle) คือรถที่รำพื้นฐานจากรถเก๋ง มายกสูง มีขนาดเครื่องยนต์ 1.5ลิตร รองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นัง ซึ่งมีความคล่องตัวมากกว่า รถเก๋ง แต่มีรูปลักษณ์ทรงสปอร์ต โฉบเฉียว และสามารถเก็บสิ่งของสัมภาระได้มากกว่าเดิม ซึ่งสิ่งที่แตกต่างระหว่างรถรูปนี้กับ SUV คือ SUV มีระบบขับเคลื่อน แบบ 4 ล้อพร้อมตัวถังที่มีขนาดใหญ่กว่า ส่วน Crossover จะเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่มีบางรุ่นจะเพิ่มระบบ ขับเครื่อง 4 ล้อมา และที่สำคัญ ราคาถูกกว่า SUV เช่น  Toyota CH-R และ Honda HR-V เป็นต้น

• MPV (Multi Purpose Vehicle) คือ รถที่มีลักษณะคล้ายกับรถตู้ 5 ประตู ตัวถังยาว ช่วงท้ายตัดตรงเหมือนรถตู้ รองรับผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 6 คน จนไปถึง 11 ที่นั่ง สามารถใส่อุปกรณ์สัมภาระได้อย่างเต็มที่ มีการขับขี่ที่นุ่มนวล ด้วยระบบช่วงล่างที่เป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยม ในคันใส่ออปชั่นประตูสไลดอัตโนมัติเพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้นอีกด้วย เช่น Toyota Alphard, Toyota Innova, และ Hyundai H-1 เป็นต้น

สำหรับท่านไหนที่กำลังมาหารถไว้ใช้งาน ผมหวังว่าข้อมูลที่ทางเรานำเสนอจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ ของท่าน ส่วนท่านไหนกำลังมองหารถมือสองคุณภาพเกรด A สามารถติดต่อทางเรามาได้นะครับ

สินค้าของเรา: เลือกชมรถของเรา

Credit: https://www.yukonlubricants.com/different-types-of-cars/